จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เชียงคาน


เชียงคาน

      เชียงคาน เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนไทย เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเลย ที่คงยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบประเพณี การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย พอเพียง วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ซึ่งหาดูยากในปัจจุบัน เมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ แห่งนี้ กำลังเป็นที่สนใจ ของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก  ภาพบ้านเก่าๆที่เรียงรายติดกันอยู่ริมถนนชายโขง ดึงดูดใจ ให้นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายรุ่นต่าง หลั่งไหลเดินทางกันมาที่นี่ บ้านเรือนที่เมืองเชียงคานจะแบ่งออกเป็นซอย เล็กๆ เรียกว่า ถนนศรีเชียงคาน ขนานคู่กันไปไปกับถนนใหญ่ ซึ่งเป็นถนนสายหลัก เริ่มตั้งแต่ถนนศรีเชียงคาน ซอยที่ 1- 24  แบ่งเป็นถนนศรีเชียงคานฝั่งบนกับฝั่งล่างซึ่งชื่อซอยเหมือนกัน   ถนนศรีเชียงคานฝั่งล่าง คือ ถนนเส้นที่เต็มไปด้วยบ้านไม้เก่าแก่ ที่พัก โฮมสเตย์ ร้านอาหาร และร้านค้าเก๋ มากมายซึ่งถนนในเส้นนี้ จะเรียกว่า "ถนนชายโขง" ซึ่ง ระยะทางกว่า  2 กิโลเมตร  เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยว นิยมมาปั่นจักรยานชมบรรยากาศ ถ่ายรูปเล่น ชมบ้านไม้สมัยเก่า แต่ก็มีบางส่วนเป็นตึกแถวสร้างใหม่ ซึ่งทาง เทศบาลไม่อนุญาตให้ปลูกสร้าง เพราะต้องการอนุรักษ์ สภาพแวดล้อม บริเวณถนนสายนี้ให้เป็นบ้านไม้ทั้งหมดเป็นการรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเชียงคาน แต่ถึงแม้บ้านไม้เก่าๆ ถึงแม้ถูกดัดแปลง ให้เป็นร้านขายของ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ บ้านพักโฮมสเตย์ไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรความ สงบเรียบง่ายของวิถีชีวิต รอยยิ้มที่ แสนจะจริง ของผู้คนในเมืองนี้ ยังคงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เมืองเชียงคานแตกต่างจากเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ   




คลองบางพระ จังหวัดตราด





คลองบางพระ จังหวัดตราด

           ชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศบ้านบางพระ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไทยที่ถือว่าเป็นชุมชนการค้าเก่าแก่ของจังหวัดตราด เป็นชุมชนที่ได้รับรางวัลชุมชนดีเด่นด้านการท่องเที่ยวจาก ททท. ในปี 2550 ในอดีตชุมชนแห่งนี้เคยเป็นที่พบปะแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าของคนหลายกลุ่ม เพราะทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณปากแม่น้ำตราด ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักในอดีตบรรดาชาวเกาะจะล่องเรือมาทางปากแม่น้ำ เพื่อนำมะพร้าวมาส่งที่บ้านบางพระ ขณะเดียวกันพ่อค้าชาวจีนก็จะล่องเรือสำเภา นำสินค้าจำพวกเสื้อผ้าแพรพรรณและเครื่องถ้วยกระเบื้องเข้ามาขาย

        นอกจากนี้ชาวชองซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของตราดก็จะลำเลียงไม้หอม ของป่าและสมุนไพรต่าง ๆ มาทางแม่น้ำตราดเพื่อนำเข้ามาขายและหาซื้อสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นกลับไปยังที่อาศัยในป่าแถบทิวเขาบรรทัด ปัจจุบันริมคลองบางพระยังมีเรือนแถวไม้เก่าแก่ที่เคยเป็นร้านค้านับร้อยคูหาและมีร้านค้าแบบโบราณเหลืออยู่บ้างอย่างร้านขายยาไทยซึ่งมีคุณค่าควรแก่การเที่ยวชมเพื่อเรียนรู้โฉมหน้าของเมืองตราดในอดีตชุมชนรักษ์คลองบางพระได้รับรางวัลชุมชนดีเด่นด้านการท่องเที่ยวจากการ ททท. เมื่อปี 2550 ในปัจจุบันชาวบ้านในชุมชนได้ร่วมกันจัดตั้งชมรมรักษ์คลองบางพระขึ้นเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมชาวบางพระไว้

        ในวันศุกร์ –อาทิตย์แรกของเดือนมีนาคมทุกปี จะมีการจัดงาน “เล่าขานตำนานคลองบางพระ” ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศในอดีตของที่นี่ ชาวชุมชนบางพระจะพร้อมใจกัน แต่งกายย้อนยุดตลอดทั้งซอย มีการออกร้านจำหน่ายสินค้าเก่าแก่ และการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณ และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายชุมชนบางพระมีบ้านเรือนเก่าอายุมากกว่า 100 ปีที่ยังคงสภาพสมบูรณ์มากมาย

        ปัจจุบันอาคารบ้านเรือนแถวบางส่วนได้ดัดแปลงเป็นร้านอาหาร, เกสต์เฮ้าส์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นิยมเดินทางมาพักในเมืองก่อนเดินทางมุ่งหน้าสู่หมู่เกาะทะเลตราด แต่ส่วนใหญ่เมื่อมาเข้าพักแล้วจะเกิดความชื่นชอบความเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่นี่จะมีบรรยากาศที่คงความเป็นเสน่ห์ได้อย่างเด่นชัด จึงทำให้ชุมชนบางพระได้รับการขนานนามจากนักท่องเที่ยวว่าที่นี่คือ “เชียงคานตะวันออก”

        การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสาย 3 (สุขุมวิท) ผ่านตัวเมืองตราด - ตลาดสดเทศบาล เจอสี่แยกไฟแดงแรกให้ตรงไป20 เมตร จากนั้นสังเกตทางซ้ายมือจะพบซอยทางเข้า “ถนนธนเจริญ” อยู่ใกล้กับแยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนธนเจริญ ด้านในจะเป็นพื้นที่ของชุมชนรักษ์คลองบางพระ ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เรายังไปไม่ครบทราเวลไทยซ่าส์จึงขอชวนเพื่อนๆไปเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทยกันบ้างนะคะ


ขอขอบคุณเว็บ

http://travel.thaiza.com


วันปีใหม่




วันปีใหม่




             อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันปีใหม่ วันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2559 (Happy New Year 2016) เป็นวันที่ใครหลายๆ คนชื่นชอบอย่างแน่นอน เพราะถือว่าเป็นช่วงวันหยุดยาวเป็นประจำทุกปี และเป็นวันที่จะได้กลับบ้านไปพบกับครอบครัวตามจังหวัดต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลองวันปีใหม่ วันนี้จึงนำข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับวันปีใหม่ ประวัติวันปีใหม่ ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร ซึ่งแท้จริงแล้ว มีหลากหลายเรื่องราวที่เราอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับ วันปีใหม่ ก็เป็นได้!!

        ประวัติความเป็นมาของวันปีใหม่
หากพูดถึงวันขึ้นปีใหม่ ตามหลักความเชื่อจะไม่ยึดถือว่าวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี เป็นวันปีใหม่ ยกตัวอย่างเช่น วันตรุษจีน จัดเป็นวันปีใหม่ของชาวจีน, วันสงกรานต์ จัดเป็นวันปีใหม่ไทย  เป็นต้น เพียงแต่ทั่วโลกส่วนใหญ่ยึดหลักตามปฏิทินให้วันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันแรก ของเดือนแรก ในปีนั้นๆ เป็น วันขึ้นปีใหม่นั้นเอง

เดิมที ใน 1 ปี เราจะมีจำนวนวัน 365 วัน แต่ในยุคสมัยของกษัตริย์จูเลียต ซีซาร์ (ก่อนคริสต์ศักราช) ได้นำความคิดของนักดาราศาสตร์อียิปต์มาปรับแต่งให้ ทุกๆ 4 ปี ให้เติมเดือนกุมภาพันธ์ ที่มี 28 วัน เพิ่มขึ้นอีก 1 วัน ให้เป็น 29 วัน ซึ่งในปีนั้นเราจะเรียกว่าเป็นปี อธิกสุรทิน
        
ความเป็นมาของวันปีใหม่ในไทย
วันขึ้นปีใหม่ (Happy New Year) ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายของคำว่า ปี หมายถึง เวลาชั่วโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครั้งหนึ่งราว 365 วัน และ เวลา 12 เดือนตามสุริยคติ

วันขึ้นปีใหม่ไทยประเพณีปีใหม่ของไทยสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 5 ตอนต้น ถือวันทางจันทรคติเป็นวันขึ้นปีใหม่

ใน สมัยรัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ใช้พุทธศักราช แทน รัตนโกสินทรศก ตั้งแต่ พ.ศ. 2455 และต่อมาใน พ.ศ. 2456 โปรดให้รวมพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์เถลิงศกสงกรานต์ พระราชพิธีศรีสัจจปานกาลถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาเข้าด้วยกันเรียกว่า พระราชพิธีตรุษสงกรานต์

ในสมัยรัชกาลที่ 8 คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร มหาอานันทมหิดล ได้ประกาศให้ใช้วันที่ 1 มกราคม เป็น วันขึ้นปีใหม่ เพราะวันที่ 1 มกราคม ใกล้เคียงวันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นการใช้ฤดูหนาวเริ่มต้นปีและเป็นการสอดคล้องตามจารีตประเพณีโบราณของไทย ต้องตามคติแห่งพระบวรพุทธศาสนาและตรงกับนานาประเทศ โดยให้เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2484 ตามราชกิจจานุเบกษา เล่ม 58 หน้า 31 เป็นต้นไป

ขอบคุณเว็บ

http://scoop.mthai.com/specialdays/3439.html
















ทัศนศึกษา




ทัศนศึกษา

      ในการไปทัศนศึกษาครั้งนี้ พวกเราได้ไปทัศนศึกษากันที่พิพิธพันธ์วิทยาศาสตร์ และดรีมเวิร์ล โดยเราได้เดินทางจากตราดตั้งแต่เวลาตีสอง ไปถึงที่พิพิธพันธ์วิทยาศาสตร์ตอนเวลาประมาณแปดโมงเช้า



   เราได้เที่ยวชมพิพิธพันธ์วิทยาศาสตร์จนถึงเวลาประมาณสิบเอ็ดโมง จากนั้นเราจึงได้เดินทางต่อไปยังดรีมเวิร์ล และได้รับประทานอาหารกลางวันที่นั่นแล้วเราก็ไปดรีมเวิลด์กันแล้วเราก็ได้เล่นเครื่องเล่นสนุกกัน มันทำให้ฉันสนุกมากแล้วก็ได้เล่นเครื่องเล่นกับเพื่อนๆมันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากเลย  การไปเที่ยวครั้งนี้ทำให้ฉันได้ความรู้ 

















เกาะหมาก จังหวัดตราด




เกาะหมาก จังหวัดตราด

          เกาะหมาก เกาะที่ยังคงความเป็นธรรมชาติท่ามกลางท้องทะเลอันกว้างใหญ่ของฝั่งอ่าวไทย เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสามในท้องทะเลตราด รองลงมาจากเกาะช้างและเกาะกูด อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 38 กิโลเมตร นั่งเรือสปีดโบ้ทจากฝั่งแค่ 50 นาทีก็ถึงแล้ว

          เกาะหมากมีรูปร่างคล้ายดาวสี่แฉก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสวนมะพร้าว โดยรอบมีอ่าว ชายหาดที่สวยงามและน้ำใสสะอาด เกาะที่เป็นสวรรค์สำหรับผู้รักความสงบแต๋ก็ยังไม่ละทิ้งซึ่งความสบาย หากคุณชื่นชอบการพักผ่อนอันเงียบสงบ ใกล้ชิดชายหาดและทะเลอันสวยงาม เกาะหมากเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เกาะที่มีฟ้าสีคราม น้ำทะเลใส หาดทรายขาว ทิวมะพร้าวเขียว




วัดเกาะหมาก 
                   สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2490 ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา เป็นศูนย์รวมจิตของชุมชนชาวเกาะหมากให้ยึดมั่นในแนวทางการดำเนินชีวิตบนวิถีแห่งความเรียบง่ายและดีงามภายในบริเวณวัดสามารถสัมผัสได้ถึงความสงบ ภายใต้ร่มเงาของต้นโพธิ์โบราณที่แผ่กิ่งก้านให้ความร่มเย็น อุปมาได้ดั่งวัดเกาะหมากที่โอบอุ้มสังคมให้เกิดสันติสุขด้วยใบบุญของพระพุทธศาสนา ช่วยบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความดีลงในแผ่นดินและงอกงามอยู่ในหัวใจของชาวเกาะหมากทุกคนให้มีจิตใจงดงาม สร้างสังคมให้น่าอยู่ดังเช่นปัจจุบัน






ขอขอบคุณเว็บ
http://www.ilovekohmak.com/

http://www.ilovekohmak.com/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81/%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81.html

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เกาะกูด จังหวัดตราด



เกาะกูด จังหวัดตราด






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ในวันที่อากาศแปรปรวน ชวนให้หัวใจเราปรวนแปร เหงาบ้าง เศร้าบ้าง มีความสุขบ้าง ก็ว่ากันไปตามอารมณ์ แต่...แต่...แต่...ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เราจะมานั่งเหงาหรือนั่งหงอยกันนะคะ แทน แท่น แท้น... เราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้เราพบกับความสุขอย่างแท้จริง นั่นคือ "เกาะกูด" เกาะที่ได้รับการขนานนามว่า "อันดามันแห่งทะเลตะวันออก" เพราะมีน้ำทะเลสีใสมรกตนั่นเอง (วู้ว...) 

          "เกาะกูด"เป็นเกาะที่อยู่สุดท้ายทางทิศตะวันออกของประเทศไทย ในน่านน้ำทะเลตราด และมีความใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะช้างในจังหวัดตราด และเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ ระยะทางห่างจากตัวเมืองตราด 80 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 105 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 65,625 ไร่ (โห...ใหญ่จริง ๆ ด้วย) โดยมีขนาดความยาวของเกาะ 25 กิโลเมตร และขนาดความกว้าง 12 กิโลเมตร

ลักษณะโดยทั่วไปของเกาะยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ โดยมีภูเขาและที่ราบสันเขาซึ่งเป็นต้นกำเนิด ลำธาร สายน้ำ ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกหลายแห่ง แต่ที่ขึ้นชื่อบนเกาะกูด คือ น้ำตกคลองเจ้า จะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นบนจะมีลักษณะเป็นลำธาร ส่วนชั้นล่างเป็นลำธารจากน้ำตกขนาดใหญ่ ซึ่งเหมาะแก่การเล่นน้ำอย่างมาก 

          น้ำตกแห่งนี้ถือว่าเป็นน้ำตกประวัติศาสตร์ คือพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2454 ทรงพระราชทานนามว่า "น้ำตกอนัมก๊ก" เพื่อเป็นที่ระลึกถึงองค์เชียงสือ กษัตริย์ญวนที่เคยเข้ามาลี้ภัยจากการจราจลในสมัยรัชกาลที่ 1




  ทั้งนี้ ทางฝั่งตะวันตกของเกาะตั้งแต่อ่าวตาติ้น หาดคลองยายกี๋ แหลมหินดำ หาดคลองเจ้า หาดง่ามโข่ แหลมบางเบ้า หาดอ่าวพร้าว ไปจนสุดปลายแหลมเทียน และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางฝั่งตะวันออกที่น่าสนใจ ได้แก่ อ่าวสับปะรด แหลมศาลา อ่าวยายเกิด อ่าวคลองหิน อ่าวจาก ล้วนแต่เป็นหาดที่มีหาดทรายสวยงาม และน้ำทะเลใส มีธรรมชาติสงบเงียบ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าวริมหาด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบท่องเที่ยว และพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ 

          อย่างไรก็ตาม ในแต่ละหาดจะมีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยว ในแบบบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวอีกด้วย นอกจากนี้ บนเกาะกูดยังมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์ แนวปะการังนานาชนิดและปลาทะเลสีสันสวยงาม ในบริเวณทะเลด้านในของตัวเกาะ รวมทั้งเกาะแรดและเกาะไม้ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเกาะกูด 

          อย่างไรก็ตาม ชนพื้นถิ่นดั้งเดิมของเกาะกูดส่วนใหญ่เป็นคนไทย และคนเขมรในเกาะกงที่อพยพเข้ามา เมื่อเมืองปัจจันตคีรีเขตรตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2447 หมู่บ้านคลองมาดเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุด ปัจจุบันชาวเกาะยังดำรงชีพด้วยเกษตรกรรม ทั้งทำสวนยางพารา สวนมะพร้าว สวนผลไม้เพียงเล็กน้อย และทำประมงชายฝั่ง



ทิปส์ท่องเที่ยว...เกาะกูด

          • การท่องเที่ยวบนเกาะกูดตามสถานที่ต่าง ๆ หากไม่ได้ซื้อแพ็กเกจทัวร์จากรีสอร์ทต่าง ๆ จะค่อนข้างลำบากในการเดินทาง เพราะไม่มีรถโดยสารวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวบนเกาะ

          • ระหว่างทำกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ เช่น พายเรือคายัก หรือนั่งเรือเที่ยวรอบเกาะ ควรใส่เสื้อชูชีพไว้ตลอดเวลา เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นได้


การเดินทาง 

          • การเดินทางไปเกาะกูดนั้น มีเรือโดยสารประจำทางไว้บริการนักท่องเที่ยว คือ... 

 "เรือไม้" 

          • เที่ยวไป เรือออกจากท่าเรือด่านเก่า เวลา 10.00 น. ถึงเกาะกูด ท่าเรือสะพานน้ำลึก เวลา 14.00 น.  

          • เที่ยวกลับ เรือออกจากเกาะกูดไปท่าเรือด่านเก่า เวลา 10.00 น.  

          • อัตราค่าโดยสารคนละ 200 บาท  

          • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-9069-1031, 08-9096-9005  

 "เรือเร็ว" 

          • เที่ยวไป มีเรืออ อกจากท่าเรือแหลมศอกไปเกาะกูด (เรือจอดที่ท่าเรือบางเบ้า) ทุกวัน วันละ 1 เที่ยว เวลา 13.00 น. เที่ยวกลับ เรือออกจากเกาะกูดไปท่าเรือแหลมศอก เวลา 10.00 น. 

          • อัตราค่าโดยสารคนละ 550 บาท  

          • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-6126-7860 

 "เรือเฟอร์รี่" 

          • เที่ยวไป มีเรือออกจากท่าเรือด่านเก่า (ท่าโชคสาคร) วันละ 1 เที่ยว เวลา 8.00 - 10.30 น.  

          • เที่ยวกลับ มีเรือออกจากเกาะกูด เวลา 11.00 น.   

          • อัตราค่าโดยสารคนละ 400 บาท  

          • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-6126-7860



ขอขอบคุณเว็บ


http://travel.kapook.com/view619.html











วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2558

จังหวัดกระบี่ 

จังหวัดกระบี่ 


เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 814 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) มีเนื้อที่ 4,708 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยภูเขา ที่ดอน ที่ราบ หมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 154 เกาะ อุดมไปด้วยป่าชายเลน ตัวเมืองกระบี่มีแม่น้ำยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามันที่ตำบลปากน้ำ นอกจากนี้ยังมีคลองปกาสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย มต้นกำเนิดจากยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกระบี่ คือ เขาพนมเบญจา และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของภาคใต้ มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น หาดทรายขาว น้ำทะเลใส ปะการัง ถ้ำ และหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 100 เกาะ และเป็นที่ตั้งของเรือนรับรองที่ประทับแหลมหางนาค



เกาะยุง, กระบี่

ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน มีชายหาดเป็นหาดหินอยู่ทางด้านทิศตะวันออก และมีหาดทรายเล็กน้อยตามหลืบเขา นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังสวยงามชนิดต่าง ๆ 





เกาะตะเล็งเบ็ง, กระบี่


เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหินปูน คล้ายเกาะพีพีเล มีชายหาดเล็กๆ และโพลงถ้ำซึ่งจะโผล่ให้เห็นได้เฉพาะเวลาน้ำลง มีนกนางแอ่นอาศัยอยู่บนเกาะด้วย






เกาะลันตา, กระบี่

อ่าวนุ้ยเป็นอ่าวที่ ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว ต้องจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ข้างทาง แล้วเดินลงเขา ทางค่อนข้างชัน แต่เมื่อลงไปถึงอ่าวนุ้ยแล้ว จะรู้ว่าคุ้มค่าต่อการเดินลงมา อย่าลืมเตรียมแว่นกันแดด โลชั่นกันแดด หมวกปีกกว้างไปด้วย






เกาะทับ, กระบี่


เกาะทับ และเกาะหม้อ เป็นอีก 2 เกาะเด่นที่อยู่ในหมู่เกาะปอดะ ยามน้ำลด ทั้งสามเกาะจะถูกเชื่อมต่อเข้าหากัน ด้วยหาดทรายที่ขาวสะอาดทอดยาว ความสวยงามนี้เองทำให้ทั้งสามเกาะนี้นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
เป็น เกาะเล็กๆ มีหาดทรายเฉพาะด้านใต้ต่อกับแนวสันทรายของเกาะปอดะนอก แม้จะเป็นหาดทรายเล็กๆ แต่มีเม็ดทรายละเอียดและขาวมาก น้ำทะเลใส บรรรดาเรือรับจ้างมักมาจอดรอนักท่องเที่ยวบริเวณนี้เพราะมีร่องน้ำให้เรือ เข้ามาได้อยู่ทางทิศใต้ของอ่าวพระนาง ห่างจากชายฝั่งประมาณ 8 กิโลเมตร เกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำลดลงต่ำสุดในแต่ละวัน เหมือนทะเลแหวกออกจากกันจนกลายเป็นหาดทรายขาว โดยเชื่อมกันทั้งสามเกาะอย่างน่าอัจศจรรย์ โดยจะเกิดเฉพาะในวันก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวคือช่วงเดือน ธันวาคม ถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี ด้วยหาดทรายที่ขาวสะอาด ทอดยาว ความสวยงามของทั้งสามเกาะนี้นับเป็น (Unseen in Thailand) อีกแห่งหนึ่งของป่ระเทศไทย นอกจากนี้ที่เกาะไก่ และเกาะทับยังเป็นจุดดำน้ำตื้นที่น่าชม โดยเกาะไก่เป็นจุดดำน้ำอยู่ที่บริเวณด้านทิศตะวันตก และที่เกาะทับมีแนวปะการังที่สวยงามอยู่ทางด้านทิศตะวันออก






เกาะปอดะ, กระบี่


เกาะปอดะตั้งอยู่ใน ทะเลด้านหน้าอ่างนาง อยู่ห่างจากฝั่งอ่าวนางประมาณ 8 กิโลเมตร หากยืนอยู่ริมหาดที่อ่าวนางหรือหาดพนรัตน์ธาราแล้วมองออกไปในทะเลจะเห็นหมู่ เกาะเล็กใหญ่กระจุกตัวอยู่ในบริวณใกล้ๆ กัน เกาะปอดะถือว่าเป็นเกาะสวยแห่งทะเลกระบี่ เป็นเกาะที่ยังคงความงดงาม เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการเที่ยวทะเลกระบี่





เกาะไก่, กระบี่

เกาะไก่ หรือ ที่เค้าเรียกกันว่าเกาะปอดะนอก หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่าเกาะด้ามขวาน เกาะรูปร่างประหลาด ซึ่งกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะเลยทีเดียว เนื่องจากชะง่อนผาที่ยื่นออกมาทางด้านใต้ ทำให้ผู้พบเห็นเกาะคล้ายกับส่วนหัวของไก่ บ้างก็เห็นเป็นด้ามขวานที่วางตั้งอยู่ แต่ฝรั่งตาน้ำข้าวกลับมองเห็นเป็นป็อบอาย ตัวการ์ตูนดังในสมัยยังแรกรุ่น หรือบางท่านอาจจะยังอยู่ในวัยอ่อนเดียงสา กำลังนอนคาบไปป์อย่างมีความสุข ท่านสามารถดำผิวน้ำชมปะการังน้ำตื้น หรือปะการังแข็งได้ที่เกาะไก่นี้ แต่ความสมบูรณ์ของปะการังก็คงไม่อาจเทียบเท่ากับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่ ห่างไกลจากผืนแผ่นดินใหญ่ ความประทับใจที่ท่านจะได้พบ ก็คงจะเป็น หาดทรายขาวทอดยาว เคียงคู่ไปกับน้ำทะเลสวยใส กับปลาลายเสือฝูงใหญ่ ที่มีมนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ ที่มักจะมารอคอยต้อนรับ และ พร้อมที่จะเล่นกับผู้มาเยือนอยู่เสมอ




เกาะไผ่, กระบี่


ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน ไม่ไกลจากเกาะยุงเท่าใดนัก  ด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกมีหาดทรายสวยงาม และแนวปะการังซึ่งส่วนมากเป็นแนวปะการังเขากวางทอดยาว ไปถึงทางทิศใต้ของเกาะ ช่วงเวลาเหมาะการเที่ยวหมู่เกาะพีพี คือช่วงที่ไม่มีลมมรสุม ประมาณเดือนพฤศจิกายน-เมษายนของทุกปี




การเดินทางไปกระบี่ สถานที่ท่องเที่ยวกระบี่ 


1.โดยรถยนต์ส่วนตัว
- จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง-พังงา-กระบี่
ระยะทาง 946 กิโลเมตร
- จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถึงจังหวัดชุมพร จากชุมพรใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอ
หลังสวน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าอำเภอเวียงสระ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4035 ถึงอำเภออ่าวลึก
แล้ววกเข้าทางหลวงหมายเลข 4 อีกครั้งหนึ่ง ถึงจังหวัดกระบี่ ระยะทาง 814 กิโลเมตร
-จากภูเก็ตการเดินทางโดยรถยนต์จากภูเก็ต ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 และหมายเลข 4 ระยะทาง 176 กิโลเมตร

2.รถโดยสารประจำทาง
มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-กระบี่ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11-12 ชั่วโมง
สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th ลิกไนท์ทัวร์
โทร. 0 2894 6151-3
ปัจจุบันบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่ www.thaiticketmajor.com นอกจากนี้ยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ไทยรูท ดอทคอม www.thairoute.com

3.รถไฟ
จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ มาลงที่สถานีรถไฟจังหวัดตรัง หรือสถานีรถไฟทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นต่อ รถโดยสาร หรือรถแท็กซี่รับจ้างเข้าจังหวัดกระบี่ สอบถามรายละเอียดได้ที่ หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่ง ประเทศไทย โทร. 1690, 0 2223 7010, 0 2223 7020 หรือ www.railway.co.th

3.เครื่องบิน
มีบริการเที่ยวบินระหว่าง กรุงเทพฯ-กระบี่ ทุกวัน ท่าอากาศยานกระบี่อยู่ที่ถนนเพชรเกษมทาง ไปอำเภอ เหนือ คลอง ห่างจากตัวเมือง 13 กิโลเมตรสามารถสอบถามตารางบิน และข้อมูลเพิ่มเติม จากสาย การบินต่างๆ ดังนี้
- บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โทร.1566, 0 2356 1111, 0 2280 0060, 0 2628 2000 หรือ    www.thaiairways.com
- สายการบินไทยแอร์เอเชีย โทร. 0 2515 9999 หรือ www.airasia.com 


 ขอขอบคุณค่ะ

http://place.thai-tour.com/krabi